
ค้นหาตัวตนด้วยการ Take Gap Year หลายคนสงสัยว่า Gap Year คืออะไร Gap Year ก็คือช่วงเวลาที่หยุดพักประมาณ 1 ปี ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมจะพักช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย หรือหลังจบมหาวิทยาลัย Gap Year มีประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนนัก หรือคนที่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรแต่รู้สึกว่ายังไม่มีความพร้อม บางคนเลือกที่จะหยุดไปทำงานเพื่อเก็บเงินเรียนต่อ บางคนเลือกไป Work and Travel ก่อนทำงาน หรือบางคนเลือกจะไปเรียนภาษาต่างประเทศก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งพี่ Tony ก็มีโอกาสได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอเมริกามา 1 ปี โดยส่วนตัวคิดว่ามีประโยชน์และคุ้มค่ามาก ทำให้เรามีความพร้อมมากขึ้นสำหรับการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ทำยังไงให้ Gap Year มีประโยชน์มากที่สุด
-
คิดว่าอยากได้อะไรจาก Gap Year
ในระหว่างช่วง Gap Year คุณสามารถไปฝึกงาน, Work and Travel, ท่องเที่ยว, ทำงานอาสาสมัคร หรือไปเรียนภาษาต่างประเทศ นอกจากคุณจะได้พัฒนาภาษาแล้ว คุณจะได้ใช้ชีวิตในต่างแดน เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย ปรับทัศนคติ และได้มุมมองอะไรใหม่ๆ อีกด้วย
-
ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน
ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น เรียนภาษาต่างๆ เรียนทำอาหาร เรียนถ่ายภาพ หรือเรียนสิ่งที่จะช่วยให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เมื่อคุณสมัครเข้าทำงาน หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้ามีโอกาสได้ทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อย่าปฏิเสธ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจจะมีประโยชน์ต่อคุณในอนาคตได้ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกไปท่องเที่ยว ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ เพราะการท่องเที่ยวจะช่วยให้คุณได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ การต่อรอง และทักษะชีวิตต่างๆ
-
วางแผนให้ดี
ในระหว่าง Gap Year คุณสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เดินทางไปได้หลายประเทศ ฉะนั้นคุณควรที่จะคิดให้ดีว่าจะทำอะไร ไปที่ไหน เพราะคุณอาจจะมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง เพื่อที่จะได้ประสบการณ์ที่ดี มีคุณภาพ มีประโยชน์ คุณควรที่จะวางแผนก่อน แน่นอนว่า ถ้าคุณต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ พี่ Tony สามารถให้คำแนะนำและแชร์ประสบการณ์ให้ได้แน่นอน
-
เขียนประสบการณ์ที่ได้รับจาก Gap Year ใน CV
ถ้าคุณไปฝึกงาน, Work and Travel, ทำงานอาสาสมัครต่างๆ, หรือเรียนต่อต่างประเทศ คุณสามารถเขียนลงใน CV ได้ โดยเขียนชื่อบริษัท หรือองค์กร ระยะเวลา หน้าที่ ความรับผิดชอบ และสิ่งที่ได้รับ เพราะประสบการณ์แบบนี้ไม่สามารถหาได้ง่ายๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาส ถ้าคุณไปท่องเที่ยวหรือเรียนต่อต่างประเทศ คุณก็สามารถเขียนลงใน CV ได้ เพราะประสบการณ์ต่างๆ ที่คุณทำระหว่าง Gap Year สามารถแสดงความเป็นตัวคุณได้ และคุณสามารถใส่ทักษะที่คุณได้รับจากการไปเรียนลงไปใน CV ได้เช่นกัน
-
กล้าที่จะตัดสินใจทำและออกจาก Comfort Zone
สิ่งที่ยากที่สุดของการไป Gap Year คือ การตัดสินใจทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ หรือทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติ และก้าวออกจาก Comfort Zone ของคุณ ถ้าคุณมีความฝัน คุณต้องมั่นใจ และลงมือทำมัน
สักครั้งในชีวิต ลองค้นหาตัวตนด้วยการ Take Gap Year พี่ Tony ขอให้น้องๆ ที่ Take Gap Year สนุก และได้รับประสบการณ์ดีๆ นะครับ
Credit : https://campus.campus-star.com/