
จากการศึกษาของ the Institute of International Education ในปี 2019 พบว่า มีนักเรียนต่างชาติเดินทางเข้ามาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมของสหรัฐอเมริกามากกว่าหนึ่งล้านคน และมีแนวโน้มมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ทั้งนักเรียนที่ถือวีซ่า F-1 และวีซ่า J-1 ในบทความนี้ เราจะมาดูประวัติความเป็นมาของโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน (วีซ่า J-1) ที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา และมูลนิธิ Nacel Open Door (NOD) ที่ดูแลโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกัน
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน (Student Exchange Program) เป็นโครงการที่เกิดจากผลของสงครามโลก ตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ให้มีการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้าใจ การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ความหลากหลายของภาษาและวัฒนธรรม และเรียนรู้ความเป็นอยู่ของชาติอื่นๆ ในปี 1921 ประธานาธิบดี Stephen Duggan มีมติอนุมัติให้รัฐบาลของสหรัฐอเมริกออกวีซ่าชั่วคราวให้แก่นักเรียนต่างชาติและออกพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฉุกเฉินในปี 1921 เพื่อออกโควต้าให้นักเรียนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้ เพื่อเรียนร่วมชั้นเรียนกับนักเรียนอเมริกัน เป็นระยะเวลา 1 เทอม หรือ 1 ปีการศึกษา และพักอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมป์อาสามัคร (Volunteer Host Family) เพื่อแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม นื่คือจุดเริ่มต้นของโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศใช้ วีซ่า J-1 สำหรับนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยนในปี 1961 ซึ่งนักเรียนต่างชาติต้องมีอายุระหว่าง 15-18 ปี และสามารถสมัครวีซ่านี้ได้แค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น
มูลนิธิ Nacel Open Door (NOD) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1957 เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านภาษาและวัฒนธรรม เป็นหนึ่งในมูลนิธิที่เป็นผู้นำด้านโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของโลก มีหน้าที่ประสานงานและคัดเลือกโรงเรียนมัธยมท้องถิ่น รวมทั้งครอบครัวอุปถัมภ์อาสาสมัครสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก และอยู่ภายใต้มาตรฐานองค์กรแลกเปลี่ยนทางการศึกษานานาชาติ (CSIET หรือ The Council on Standards for International Educational Travel) มีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปอล รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางมูลนิธิฯ มีความเชื่อว่าโลกของเราสามารถพัฒนาและดีขึ้นได้เพราะเยาวชน ทางมูลนิธิฯจึงสนับสนุนที่จะให้เยาวชนทั่วโลกได้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมของกันและกัน เพื่อเพิ่มมุมมองของการยอมรับความแตกต่างหลากหลายของชาติอื่นๆที่แตกต่างไปจากภาษาและวัฒนธรรมของตนเอง และที่สำคัญคือเพิ่มโอกาสให้กับเยาวชนในการหาประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนอีกด้วย
มูลนิธิ Nacel Open Door ได้มอบหมายให้บริษัท โทนี่ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นตัวแทนที่ประเทศไทย เพื่อทำการคัดเลือกนักเรียนเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกาตามโควต้าที่กำหนด นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 ปีการศึกษา โดยพำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์อาสามัครเสมือนสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นยุวทูตนำวัฒนธรรมของประเทศไทยไปเผยแพร่ตามโอกาสอันควรทำให้ชาวต่างชาติได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ตลอดระยะเวลาของโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ทางมูลนิธิฯ มีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกพื้นที่แบบ 24/7 ประกอบกับตัวแทนมูลนิธิฯ ที่ประเทศไทย ที่พร้อมดูแลนักเรียนตั้งแต่เข้าร่วมโครงการฯ จนจบหลักสูตร และเดินทางกลับถึงประเทศไทย
การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกานั้น เป็นโอกาสดีที่นักเรียนไทยจะได้ไปเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของคนอเมริกัน รวมถึงระบบการศึกษาแบบอเมริกันที่แตกต่างจากบ้านเรา เปิดโลกทัศน์ให้ได้เห็นโลกกว้าง การใช้ชีวิต รวมถึงมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย ในงบประมาณที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับการไปเรียนต่อเองแบบวีซ่า F-1 ดังนั้น พี่ TONY สนับสนุนให้เด็กไทยสัมผัสชีวิตการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกาสักครั้งในชีวิต แล้วจะรู้ว่า การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา มันคุ้มค่าที่ได้ลงทุน
“Exchange is not a Year in a Life, but a Life in a Year” — The Year Ends, and the Life Begins
ดูรายชื่อโรงเรียนโควต้าทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศอเมริกา >>คลิก<<
Ref: https://www.nwse.com/ , https://en.wikipedia.org/ , https://www.nacelopendoor.org/ , https://www.iie.org/