
ก่อนที่คุณจะไปเลือกภาษาในต่างประเทศนั้น สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง พี่ Tony จะมาแนะนำหัวข้อหลักๆ ที่ควรรู้และพิจารณา ดังนี้
1. ระยะเวลาที่ควรไปเรียน
คำถามยอดฮิตคือ ต้องเรียนนานแค่ไหนถึงจะได้ผล? อันนี้ตอบลำบากมาก เพราะว่าขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน และการตั้งเป้าในผลลัพธ์ที่ต้องการบวกกับความตั้งใจ (จริงๆ) ครับ
พื้นฐานของแต่ละคน..
ขอสมมุตินะครับ .. คุณเรียนจบมัธยมระดับกลางๆ ไม่ได้เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย เรียนปานกลาง วิชาภาษาอังกฤษได้เกรดกลางๆ เรียนต่อมหาวิทยาลัยรัฐบาลหลักสูตรภาษาไทยด้วย และว่างสองเดือนช่วงปิดเทอมอยากไปเรียนภาษาในต่างประเทศ เราว่าพื้นฐานของคุณไม่ด้อยกว่านักเรียนในห้องที่จะไปเจอที่นั่นเลย เพราะบ้านเราเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อนุบาล ในขณะที่มีหลายประเทศที่เค้าจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตอนมัธยม (พักเรื่องนี้ก่อน ไว้จะมาต่อครับ)
ผลลัพธ์..
ต่อมาเรื่องของผลลัพธ์ เราคิดว่าคุณตั้งเป้าประมาณว่า “สนทนากับชาวต่างชาติได้ตลอด 2 เดือนที่อยู่” เราว่าประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าคุณไม่ได้เป็นอัจฉริยะ ไอคิวแบบ 140 อัพ ไม่มีนะครับเรียนภาษาให้เก่งภายใน 2 เดือน แม้เราจะเห็นที่เรียนพิเศษบ้านเราโปรโมทประหนึ่งนักเรียนไทยทุกคนเป็นจีเนียส “เก่งภาษาอังกฤษภายใน 1 เดือน”, “การันตีสอบไอเอลท์ผ่านภายใน 2 อาทิตย์” เราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อการตลาดนะครับ
ความตั้งใจ..
เรื่องสุดท้ายคือความตั้งใจครับ เพราะนอกจากสิ่งแวดล้อมโดยรวม ที่บังคับให้เราต้องได้ใช้ภาษาแล้ว ในสถาบันที่ได้มาตรฐานเค้าจะมีการสอบแยกระดับชั้นในวันแรกที่เราไปถึงอีกเพื่อแยกนักเรียนในแต่ละห้อง ตามความสามารถทางภาษา เช่น ถ้าคุณสอบออกมาแล้วอยู่ในระดับ Elementary หรือระดับเริ่มต้นนั้น ทั้งห้องเรียนก็จะมีแต่นักเรียนระดับเดียวกันอีกครับ เค้าให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในการเรียนมาก ถ้าผู้เรียนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม โอกาสในการเรียนรู้ก็ยิ่งมีประสิทธิผล
ถ้า 3 ประเด็นนี้ชัดเจนแล้ว สำหรับระยะเวลาที่เหมาะสมน่ะเหรอครับ…. คำตอบง่ายๆ คือยิ่งนานยิ่งดี เพราะความถนัดทางภาษา คือเรื่องของการใช้งานจริงและการฝึกฝนบ่อยๆ เหมือนการว่ายน้ำ หรือขี่จักรยาน เมื่อเป็นแล้วจะไม่ลืม แต่ถ้าไม่ใช้นานๆ จะไม่คล่องแคล่ว และ fix-cost บางอย่าง เช่น ตั๋วเครื่องบิน คือเราจ่ายครั้งเดียวไปตามระยะเวลาที่อยู่ เพราะฉะนั้น อยู่ระยะสั้นหรือยาว เราก็จ่ายเท่าเดิม
ติดตามหัวข้อที่ 2 ที่ควรรู้ก่อนไปเรียนภาษาต่างประเทศ ใน Part 2
ที่มา : https://campus.campus-star.com/