
พี่ Tony แนะนำ ข้อแรกที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินไปเรียนต่างประเทศ เรื่องระยะเวลาที่ควรไปเรียนใน Part 1 ไปแล้ว วันนี้เรามาพูดถึงค่าใช้จ่ายกันบ้าง… โดยปัจจัยหลักๆ ที่มีผลกับค่าใช้จ่าย คือ “ที่พัก” ประเภทของที่พักที่ได้รับความนิยมมากสุดของโครงการเรียนภาษาในต่างประเทศช่วงปิดซัมเมอร์ ก็จะเป็นโฮสแฟมิลี่ (เรื่องนี้ต้องอีกหนึ่งบทความเต็มครับ รับประกันความมันส์ เป็นประเด็นที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญอันดับต้นๆ เลย สำคัญกว่าสถาบันที่จะไปเรียนอีก) เราเคยถูกส่งไปทำงานที่อังกฤษ แผนก accommodation (ฝ่ายจัดหาที่พักให้นักเรียน) มาช่วงหนึ่ง เข้าใจและได้เห็นอะไรเยอะมากครับ เอาไว้จะมาแชร์นะครับ กลับมาเรื่องประเภทที่พักก็จะแบ่งได้ตามนี้ครับ
2. ประเภทของที่พัก
ส่วนใหญ่มักประกอบไปด้วยที่พักดังนี้คือ โฮสแฟมิลี่ โฮมแชร์ หอพักของโรงเรียน หอพักนักเรียน และหาหอพักเอง
1. โฮสแฟมิลี่
โฮสแฟมิลี่ของโครงการฯ นี้ เป็นโฮสแฟมิลี่แบบธุรกิจนะครับ คือได้เงินจากการรับเราไปดูแล ซึ่งจะแตกต่างกับโฮสแฟมิลี่ของโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของนักเรียนมัธยมที่จะเป็นแบบอาสาสมัคร เราไม่ได้บอกว่าแบบไหนดีกว่านะครับ แต่ผู้ปกครองและนักเรียนควรเข้าใจก่อนไป ค่าใช้จ่ายถือว่าประหยัดมากๆ จะมีห้องเดี่ยว ห้องคู่ และรับอาหารเช้าและเย็นด้วยหรือไม่ ราคาก็ต่างกันไป อาจมีแบบใกล้ไกลโรงเรียนคนละราคา หรือ En-Suite แบบห้องน้ำในตัวก็อีกราคา
2. โฮมแชร์ (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปนะครับ อาจมีบางที่รับ 16 ปี)
อันนี้แบบเอาบ้านทั้งหลังมาแบ่งป็นห้องๆ แล้วให้นักเรียนมาเช่า ให้เลือกอยู่ห้องเดี่ยวหรือห้องคู่ได้ ราคาแตกต่างกันและส่วนใหญ่จะเป็น Self-Catering คือไม่รวมอาหาร มีไมโครเวฟให้ ค่าใช้จ่ายโดยทั่วๆ ไปก็จะแพงกว่าโฮสแฟมิลี่ไม่มาก
3. หอพักของโรงเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น)
ส่วนใหญ่สถาบันที่ใหญ่มาก จะมีที่พักเป็นของตัวเอง แบบห้องสี่คน สามคน ห้องคู่ ห้องเดี่ยว ราคาแตกต่างกันไป ไม่ค่อยมีแยกตึกชาย-หญิง ส่วนใหญ่จะแค่แยกชั้น แต่ทั้งตึกจะมีเฉพาะนักเรียนของสถาบันเค้าเอง มีทั้งแบบรวมอาหาร และ Self-Catering แพงกว่าสองแบบแรกแน่นอน แต่ข้อดีคือการเดินทางไป-กลับที่พักโดยส่วนใหญ่จะใกล้กว่าโฮสแฟมิลี่ครับ เพราะหอพักจะอยู่ในเมืองหรือบางแห่งอยู่ในโรงเรียน
ต้องอธิบายว่าประเทศที่เจริญแล้วแล้ว เค้าจะแบ่งพื้นที่ไว้ชัดเจนครับ ในตัวเมืองไม่ค่อยมีบ้านพักอาศัย ส่วนใหญ่จะเป็นที่ทำมาหากิน ร้านค้าร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศสำนักงาน สถาบันการศึกษาทั้งหลาย ส่วนบ้านพักจะไปอยู่รอบนอกครับ ความใกล้ไกลจะขึ้นอยู่กับเมืองที่ไปครับ
4. หอพักนักเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น)
ก็คือสถาบันไม่ได้เป็นเจ้าของตึกแต่มีดีลกันไว้ บางแห่งก็ไปเช่าหมดชั้นไว้ แล้วมาปล่อยให้นักเรียนเช่ากันต่อ ราคาก็แล้วแต่เราเลือก ห้องรวม ห้องเดี่ยว ห้องน้ำในตัวด้วยมั้ย รวมอาหารมั้ย ในส่วนนี้บางโรงเรียนก็จะมีให้เลือกเป็นอพาร์ทเมนท์เช่า หรือไปจนช่วยจองโรงแรมเลยก็มี
5. แบบไม่เอาที่พักกับทางโรงเรียนก็คือ ไปหาหอพักนอกเอง (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น)
อันนี้ก็ได้รับความนิยมมาก อัดกันเข้าไปห้องนึงก็เคยได้ยินว่าเป็นสิบคนก็มี ประหยัดกันจัด อาจจะเป็นพวกคนไทยด้วยกันที่ไปทำงานหรือไปเรียนกันยาวๆ หรือไม่ก็ต้องรู้จักกันมานานถึงชวนกันมาแชร์ค่าห้อง อันนี้ไม่แนะนำสำหรับไปเรียนสั้นๆนะครับ เพราะนานๆ ไปที ไปแบบมีความสุขและประหยัดให้ถูกเรื่องดีกว่า
เดี๋ยว Part หน้า เราจะมาบอกข้อ 3 ที่ควรรู้ก่อนไปต่างประเทศ พร้อมค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่ต้องใช้ครับ
ที่มา : https://campus.campus-star.com/