
หากผู้ปกครองที่กำลังคิดหรือวางแผนส่งบุตรหลานเรียนต่อมัธยม การเลือกโรงเรียนถือเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองควรทำการศึกษาข้อมูล และวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปีการศึกษา เนื่องจากปัจจัยเรื่องจำนวนการรับเข้า จำนวนที่นั่งที่มีจำกัดในชั้นปี การเลือกโรงเรียนสถานศึกษาในต่างประเทศ จำเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ปกครองควรหาข้อมูลไม่ว่าจะดูจากเว็บไซต์โรงเรียนก็ดีหรือปรึกษาเจ้าหน้าที่นักการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อมูลให้มากที่สุด
สิ่งที่ผู้ปกครองควรคำนึงถึง อันดับต้นๆ
ควรวางแผนล่วงหน้าเรื่องเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีการศึกษา การรับเข้าโรงเรียนส่วนใหญ่ หากอายุน้อย ๆ จะไม่ค่อยมีปัญหา ยิ่งอายุน้อย การรับเข้าก็จะง่าย เนื่องจากไม่ต้องสอบวัดประเมิณผลอะไร หลักวิทยศาสตร์ที่ว่า ยิ่งส่งลูกตอนอายุยังน้อย ยิ่งเป็นผลดี หมายความว่าเด็ก ๆ กับการปรับตัวแน่นอนจะทำได้ดีตอนอายุน้อย จะเป็นคำถามต่อไปว่าส่งลูกตอนปีไหนจะดีที่สุด คำตอบคือ ยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบทางการศึกษา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับครอบครัวและความพร้อมด้วย ส่วนใหญ่หากมั่นใจแล้วว่าจะส่งลูกเรียนต่อเมืองนอกในระดับมัธยม ก็ควรคำนึงถึงในช่วงอายุที่สำคัญ เนื่องจากระบบในต่างประเทศจะมีการเรียนการสอบที่ต้องเก็บหน่วยเครดิต แต่หากอายุช่วงมัธยมปลาย ความยากจะอยู่ที่การสอบเข้าและที่นั่งที่รับจำนวนจำกัด
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่อังกฤษ
ส่วนใหญ่จะมีการสอบเข้าใน Year 10 (GCSE) และ Year 12 (A levels) ส่วนใหญ่หากมองระยะยาวจะส่งลูกเรียนต่อ คำแนะนำก็จะส่งเรียนช่วง Year 9 เนื่องจากจะได้มีการปรับตัวอย่างน้อยหนึ่งปีการศึกษา ซึ่งในYear 9 ยังเป็นหลักสูตรที่ไม่หนักเท่าไหร่นักเรียนจะได้เรียนเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ชั้น Year 10-11 ต่อไป
หรือหากว่าต้องการไประดับมัธยมปลายก็เริ่มไปในช่วงอายุ 16 คือ Year 12-13 ในระดับ A levels คือสองปีสุดท้ายของระดับมัธยมปลายนั่นเอง ซึ่งในระดับชั้นเรียนนี้เกือบทุกโรงเรียนมีข้อสอบในการสอบเข้า และแน่นอนความยากจะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น นักเรียนที่จะเข้าระดับนี้ต้องมีการเตรียมตัวที่ดี รีบสมัครแต่เนิ่นๆ บางโรงเรียนมีที่นั่งไม่เยอะสำหรับระดับนี้ ช่วงที่ดีในการสมัครเรียนคือช่วง กันยายน ของปีก่อนที่จะเริ่มเรียนต่อ ควรทำการศึกษาหาข้อมูล ปรึกษาเจ้าหน้าที่นักการศึกษา ข้อมูลโรงเรียนในเว๊ปไซต์ต่าง ๆ ทำให้ได้รับข้อมูลหลาย ๆ ด้าน สร้างความมั่นใจในการเลือกสถาบันการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่อเมริกา
ตัวเลือกในอเมริกาส่วนใหญ่ มันมีเยอะมากมาย ประเทศกว้างระดับนี้ผู้ปกครองอาจจำเป็นต้องเลือกเมืองก่อนเป็นอันดับต้น ๆ กำหนดพิกัดว่ารัฐอะไร บางคนมีญาติอยู่ หรือบางที่มีความปลอดภัยสูงต้องการไปที่มีความปลอดภัย เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ดังนั้น ผู้ปกครองควรทำการศึกษาเรื่องของเมือง รัฐ แต่ละรัฐ ระบบการศึกษา เป้าหมายในการศึกษาเป็นอย่างไรโรงเรียนมัธยมอเมริกามีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก อเมริกามีชื่อเสียงในเรื่องเทคโนโลยี ความทันสมัยในการใช้ชีวิต มีความหลากหลายในวัฒนธรรม แต่มีข้อจำกัดคือเมื่อไปศึกษาโรงเรียนมัธยมของรัฐบาล รัฐบาลมีนโยบายใหม่คือ ให้นักเรียนต่างชาติศึกษาในโรงเรียนของรัฐได้ 1 ปีเท่านั้น แต่หากต้องการเรียนต่อต้องศึกษาต่อที่โรงเรียนเอกชน
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่แคนาดา
เป็นอีก 1 ประเทศที่พ่อแม่นิยมส่งลูกๆไปศึกษาระดับมัธยมแคนาดา โรงเรียนมัธยมแคนาดามีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับท๊อปเมื่อเทียบจากทั่วโลกจะมีระบบที่คล้ายกับของโรงเรียนอเมริกันมาก เช่น หลักสูตรเนื้อหา รายวิชา ชุดนักเรียน และ สำเนียงการพูด นั่นคือการไม่เคร่งครัดเรื่องชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียน แต่งตัวได้ตามสบาย ไม่ผิดกฏโรงเรียน รูปแบบการเรียน ใช้ระดับการเดินเรียนตามรายวิชาที่เลือกลงทะเบียนเรียน มีล๊อกเกอร์ให้นักเรียนเก็บเอกสาร เหมือนในหนังอเมริกัน ชาวแคนาดามี สำเนียงที่คล้าย ชาวอเมริกัน ทำให้นักเรียนไทยมีความคุ้นเคยจากหนัง ชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพการศึกษา ความปลอดภัยสูง อากาศเย็นตลอดปี ยังมีความงดงามทางธรรมชาติมากแห่งหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ แคนาดามีความสุขอยู่ระดับสูงมากจากผลสำรวจพบว่าแคนาดาเป็นประเทศที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำมาก แคนาดามีค่าใช้จ่ายระดับโรงเรียนมัธยมที่ต่ำกว่าอเมริกา หรือบางประเทศทางยุโรป
เทอมการศึกษามี 2 เทอมต่อปี เริ่มเทอมแรกในเดือนกันยายน ระยะเวลาเรียน 5 เดือนในแต่ละเทอม และเริ่มเทอมสองประมาณเดือน กุมพาพันธ์ เรียนประมาณ 10 เดือนต่อภาคการศึกษาและปิดเทอมซัมเมอร์ในช่วง กรกฎาคมถึงสิงหาคม ค่าเรียนสำหรับประเทศแคนาดาในโรงเรียนของรัฐบาลถือว่าดีเลยทีเดียว ตกปีละ 5-6 แสนบาทรวมทุกอย่างหมดแล้ว เช่น ค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าหอพัก ค่ากิจกรรม ค่าประกันสุขภาพ การเก็บหน่วยกิตให้ครบตามระบบการศึกษาในแคนาดาก็มีส่วนสำคัญ นักเรียนจำเป็นต้องเก็บหน่วยกิจให้ครบตามที่โรงเรียนกำหนด
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์จัดเป็นประเทศที่นักเรียนไทยนิยมส่ง ลูกๆ หลานๆ ไปเรียนในระดับมัธยมมากที่สุด เพราะนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ปลอดภัย และ ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเรียนในยุโรป หรือ อเมริกาซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง นิวซีแลนด์ สงบ และปลอดภัย ไม่ค่อยมีปัญหาอาชาญกรรม ทำให้ผู้ปกครองของนักเรียนไทยส่วนใหญ่จึงมั่นใจว่าเมื่อส่งบุตรหลานไปเรียนนิวซีแลนด์แล้ว ก็มักจะได้ภาษาอังกฤษที่ดี และจบการศึกษาได้ตามเวลาแถมด้วยชาวนิวซีแลนด์นั้นเป็นมิตรและอัธยาศัยดี มีความหลากหลายของเชื้อชาติ ทำให้คนในประเทศนี้ ส่วนใหญ่เข้าใจถึงความแตกต่าง
ระบบการศึกษาในนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่โรงเรียนก็จะตอบรับเข้าเรียนต่อได้เกือบทุกเทอม แต่จะไม่แนะนำให้เรียนในเทอมที่สี่ ที่นี่จะมีภาคการศึกษาเรียนทั้งหมดสี่เทอม เนื่องจากเทอมสุดท้ายส่วนใหญ่เป็นการสอบ ทบทวนบทเรียน โรงเรียนในนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ก็สามารถรับนักเรียนเข้าไปเรียนเทอมไหนก็ได้ อาจจะไม่จำเป็นต้องเข้าเทอมแรกเสมอไป สำคัญอยู่ที่คุณภาพได้รับการรับรองจาก New Zealand Qualifications Authority NZQA หรือไม่ นักเรียนผู้ปกครองควรตรวจว่าโปรแกรมที่จะเรียนนั้นได้รับการยอมรับจากมาตราฐานจากรัฐบาลนิวซีแลนด์
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่ออสเตรเลีย
จริง ๆ ก็จะคล้าย ๆ กันในที่ประเทศนิวซีแลนด์ ระบบการศึกษาตัวเลือกโรงเรียนในออสเตรเลียมีทั้งรัฐและเอกชน แบบประจำและไปกลับให้เลือก ก็อยู่ที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่จะเลือกและเชื่อในระบบการศึกษาในที่ใด โรงเรียนประจำในออสเตรเลียในบางที่มีข้อจำกัด อาจจะรับให้อยู่ประจำได้ตอนอายุ 15 ปีขึ้นไปก็มี ดังนั้น ถ้าน้อยกว่านี้อาจจะอยู่แบบไปกลับ เป็นต้น การตอบรับเข้า ก็มีขั้นตอนที่ค่อนข้างใช้เวลาเช่นกัน บางโรงเรียนก็จะให้ไปสอบวัดระดับภาษาก่อน เรียกว่า AEAS Test ( AEAS – Australian Education Assessment Services เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษก่อน
เรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่เยอรมัน
ในประเทศเยอรมันการเรียนต่อมัธยม สำหรับนักเรียนต่างชาติอาจจะมีตัวเลือกไม่มากเท่าไหร่ เนื่องจากรัฐบาลจะให้คนในประเทศเรียนฟรี และใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลักในการเรียนการสอน หากนักเรียนไทยที่ต้องการเรียนต่อมัธยมในประเทศเยอรมัน จำเป็นอาจจะต้องเรียนในสถานศึกษาที่สามารถเปิดรับให้สำหรับนักเรียนต่างชาติได้เข้าเรียนได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงเรียนประจำ และในบางที่ก็จะไม่สามารถรับได้ทุกช่วงอายุปีซึ่งบางที่จะเริ่มรับนักเรียนต่างชาติในชั้นปี เช่น Year 9 -ขึ้นไปเป็นต้น และมีการสอบสัมภาษณ์ และสอบ เช่นวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นหลัก
Credit : https://www.laisinterstudy.com/ , https://www.oecglobal.com/